หน้าเหี่ยวก่อนวัยแก้ไขยังไงดี อยากดูดีกว่าคนรุ่นเดียวกัน
หน้าเหี่ยวก่อนวัยแก้ไขยังไงดี?
สิ่งที่ผู้หญิงทุกคนไม่ว่าจะวัยไหนก็อยากให้เกิดขึ้นกับตัวอยู่ตลอดคงหนีไม่พ้น “ความหน้าเด็ก” ไม่มีใครหรอกที่จะเดินๆอยู่แล้วเจอคนที่รู้จักทักว่า “หน้าแก่ขึ้นนะ” ปัญหาริ้วรอยเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย แต่ความเป็นจริงนั้น ยังมีอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงดูมีอายุเยอะกว่าความเป็นจริงมากคือ ปัญหารูปหน้าหย่อนคล้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 3 จุดสำคัญ นั่นคือ…
แนวกราม ใต้คาง และโหนกแก้ม หาก 3 จุดนี้หย่อนคล้อยแล้วก็จะทำให้จากใบหน้าที่สาวสวย ดูแก่ลงไปในทันที
อีกวิธีหนึ่งที่ได้รับการปัจจุบัน down time เรียก Less invasive คือการ “ร้อยไหม” ถ้าพูดถึงการร้อยไหมหลายหลายท่านคงได้ยินกันมานานแล้ว 5-10 ปี ในเมืองไทย ต้องบอกกับคนไข้ทุกคนว่าปัจจุบันใหม่ที่ได้รับ อย. มีแค่ 2 ชนิดเท่านั้นในเรื่องของการยกกระชับ ในขณะที่ไหมในเมืองไทยมีหลายยี่ห้อและมาจากหลากหลายประเทศมาก แต่ว่าตัวที่ได้ อย. ในเรื่องของการยกกระชับเป็นตัวที่ผ่านการคัดกรองมาอย่างดีแล้ว มีการศึกษาอย่างชัดเจนว่าช่วยในเรื่องของการยกกระชับและผลข้างเคียงน้อย เมื่อเทียบกับไหมในอดีตที่คนไข้เคยได้เห็นคือ เมื่อร้อยไหมไปแล้วผิดรูป ร้อยแล้วมีรอยตะปุ่มตะป่ำหรือเห็นเขี้ยวของไหม มีปัญหาไหมเลื่อนไหมหัก ร้อยไหมแล้วผลอยู่ได้ไม่นาน 1-2 สัปดาห์ ผลลัพธ์ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมตอนยังไม่ได้ร้อย
การเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะกับปัญหาผิว
อันดับแรกหมอจะพิจารณาจากอายุของคนไข้ การเลือกใช้ HIFU วัตถุประสงค์คือใช้เพื่อการยกกระชับ โดยผ่านกระบวนการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ โดย Ultrasound ปล่อยพลังงานไปยังตำแหน่งความลึกที่ต้องการได้อย่างจำเพาะ สามารถลงลึกได้ทุกระดับใต้ชั้นผิว เพราะฉะนั้นคนไข้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยยจากคอลลาเจนคลายตัวจะได้ประโยชน์จากการทำ HIFU มาก ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-8 เดือน ดังนั้นคนไข้ที่อายุไม่เกินช่วง 20-35 ปี การแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยด้วย HIFU ก็เพียงพอ เห็นผลทันทีหลังทำทันที คลื่นเสียงลงไปที่ผิวเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนสูงที่สามารถกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ เกิดผลลัพธ์ 2 อย่างคือ
- ทำให้คอลลาเจนเก่าหรือแก่แล้วตายไป แล้วสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา
- ทำให้คอลลาเจนที่มีลักษณะการคลายตัวอยู่หดตัวมากขึ้นเกิดการยกกระชับ
- กรอบหน้าชัด ผิวกระชับ ยกตึงขึ้น 15-30% ทันที
- ร่องแก้มตื้น ริ้วรอยเล็กๆ ลดลงทั้งใบหน้า 7-14 วัน
- ยกคิ้ว เปลือกตา หางตา ใบหน้าดูสดใสขึน 7-14 วัน
- กระชับเหนียงและคอ หน้าดูเล็กลง 14-20 วัน
- เพิ่มความคมชัดบริเวณแนวกราม 14-20
- กระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ผิวนุ่ม เด้ง เนียน 20-30 วัน
หากอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่จะมีปัญหาอื่นร่วมด้วยทั้งปัญหากระดูกบางตัวลงและไขมันย้ายตำแหน่ง ปัญหาเหล่านี้ต้องใช้วิธีการแก้ปัญหาที่มากกว่าการกระตุ้นคอลลาเจนเพียงอย่างเดียว จึงแนะนำเป็นการ ร้อยไหมยกกระชับใบหน้า เห็นผลทันทีหลังทำทันที
⦁ เงี่ยงไหมที่คล้ายตะขอจะเกี่ยวดึงผิวขึ้นได้ทันที ปรับรูปหน้าวีเชฟ
⦁ เส้นใย collagen และ elastin ถ้าอยู่ในแนวที่ถูกต้อง และชั้นผิวที่เหมาะสม ก็จะสามารถช่วยประคองผิว กระชับผิว คล้ายๆ เส้นเอ็นที่อยู่บนใบหน้าตามธรรมชาติ
แรงยกของเส้นไหม ดึงเก็บแก้มกะเปราะที่ห้อยให้กระชับ และเก็บริ้วรอยเล็กๆ
แต่ถ้าหากเรามีสองปัจจัยร่วมกัน การร้อยไหมอย่างเดียวก็อาจจะไม่ได้ช่วยกันกระตุ้นคอลลาเจนผิวแต่ จะช่วยเรื่องของการยกกระชับดึงผิวขึ้น แพทย์แนะนำให้ทำร่วมกันทั้ง HIFU เพื่อการกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา ทำให้คุณภาพผิวดีป้องกันการเกิดริ้วรอย รูขุมขนกระชับ และการร้อยไหมเพื่อย้ายตำแหน่งของไขมัน ที่มีกระเปาะแก้มหรือร่องแก้มที่หนา การร้อยไหมจะช่วยปัญหาตรงนี้ได้ ทำให้กรอบหน้าชัดขึ้นเมื่อทำร่วมกัน จึงทำให้เกิดผิวยกกระชับตึงและผิวมีคุณภาพดี คอลลาเจนสมบูรณ์แข็งแรงด้วย
ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้าเราเลือกใช้ไหมที่ได้รับมาตรฐานจาก อ.ย. นอกจากผลข้างเคียงน้อย เห็นผลไว ระยะเวลาพักฟื้นแทบจะไม่มีเลย ที่สำคัญราคายังประหยัดอีกกว่าด้วย วันนี้หมอจะแนะนำไหมยกกระชับที่ได้มาตรฐาน อ.ย.ทั้งของไทย อเมริกาและอีกหลายประเทศทั่วโลก เป็นไหมที่มาแรงมากในขณะนี้ คือ “ไหมมิ้นท์” จากประเทศเกาหลี
ที่ Masterworkclinic หมอเลือกใช้ไหมมิ้นท์ เนื่องจากมีสิทธิบัตรจดชัดเจนในเรื่องของนวัตกรรมการผลิตเงี่ยงของไหม ไหมทั่วไปที่ไม่มีเงี่ยงความสามารถในการยกกระชับก็จะน้อย ถ้าเป็นไหมเขี้ยวหรือไหมเงี่ยงจะสามารถยกกระชับผิวได้ดีกว่า โดยเฉพาะเทคโนโลยีในการผลิตเงี่ยงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ตัวไหมมิ้นท์เองมีสิทธิบัตรในการสร้างเขี้ยวขึ้นมาที่เป็นลักษณะของการหล่อเขี้ยว ทำให้เขี้ยวที่ออกมาแข็งแรงมาก นึกภาพตามหมอนะครับ เหมือนก้านกุหลาบที่มีหนามออกมาจากก้าน หนามแต่ละอันมีลักษณะที่คม ชัด และติดกับตัวก้าน ทำให้ลักษณะเขี้ยวแบบนั้นที่ยึดกับผิวได้ดี ต่างกันกับไหมเขี้ยวอื่นๆ ที่มีการสร้างเขี้ยวในลักษณะการบากไปที่ตัวไหม เหมือนมีต้นกล้วยแล้วใช้มีดฟันให้เกิดเขี้ยวขึ้นมา เขี้ยวลักษณะนี้นอกจากจะเล็กและยังฉีกขาดได้ง่าย ความแข็งแรงและคุณสมบัติในการยกกระชับผิวยังน้อยอีกด้วย เป็นที่มาของการเกิดไหมเลื่อน ไหมเคลื่อนที่ อาจจะเกิดได้มากกว่า ฉะนั้นความสำคัญในการผลิตเขี้ยวของไหมจึงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไหมมิ้นท์
นอกจากลักษณะพิเศษของการสร้างเขี้ยวแล้วยังเป็นเรื่องทิศทางของเขี้ยว ไหมมิ้นท์จะออกแบบเคี่ยวให้วนรอบ 360 องศา เพราะฉะนั้นจึงทำให้คุณสมบัติในการเกาะกับผิวได้ดีกว่า และมีงานวิจัยที่พบว่าสามารถดึงได้น้ำหนักมากกว่าไหมเขี้ยวชนิดอื่นๆ ถึง 3 เท่า ดังนั้นจึงเป็นตัวรับประกันได้เลยว่า คนไข้ที่ร้อยไหมเขี้ยวชนิดของไหมมิ้นท์โอกาสที่ผิวจะตกกลับไปเหมือนเดิมภายใน 2 อาทิตย์จะน้อยมาก การันตีอยู่ที่ 1 ปีจากการศึกษาจากข้อมูลของอ.ย. นอกจากนี้ตัวแมททีเรียลที่เอามาผลิตไหมยังปลอดภัย เพราะว่าผลิตมาจาก Polydioxanone หรือว่า PDO เป็นสารที่เข้าสู่ร่างกายแล้วไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือว่ากระตุ้นการเกิดภูมิแพ้และการต่อต้าน ตัวไหมจะละลายตัวไปเมื่อครบเวลา 12 เดือน คุณสมบัติในการยกผิวอยู่ได้ประมาณ 1 ปี ชัดเจน และนี่ก็เป็นวิธีการแก้ปัญหาหน้าเหี่ยวก่อนวัยจากปัจจัยภายนอกที่รุมเร้าได้อย่างชัดเจน
ร้อยไหมมิ้นท์เหมาะกับใครบ้าง?
การยกกระชับผิวหน้าด้วยไหมมิ้นท์เหมาะกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30-60 ปีขึ้นไป โดยเนื้อเยื่อต้องไม่ยุบตัวหรือผิวหนังต้องไม่หย่อนคล้อยมากเกินไป เพราะหากผิวหนังหย่อนมากเนื่องจากอายุหรือมีน้ำหนักตัวมาก อาจต้องใช้วิธีอื่น ๆ รวมกับการร้อยไหมมิ้นท์ จึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
- ผู้ที่มีปัญหาหน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด
- ผู้ที่ปัญหาคิ้วตก หนังตาตก หางตาตก
- ผู้ที่มีปัญหามุมปากตก
- ผู้ที่ร่องแก้มหย่อนคล้อย ร่องน้ำหมากลึก
ไหมมิ้นท์ทำร่วมกับการยกกระชับแบบอื่นได้ไหม?
การร้อยไหมมิ้นท์สามารถทำร่วมกับการยกกระชับหน้าด้วยวิธีอื่น ๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เช่น การใช้วิธีการร้อยไหมร่วมกับการทำฟิลเลอร์หรือฉีดไขมันทั่วหน้า การร้อยไหมมิ้นท์ร่วมกับวิธีลดรอยเหี่ยวย่นด้วยโบ หรือยกกระชับด้วยเครื่องมือ เช่น HIFU ,Ulthera, Thermage ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาและการพิจารณาของแพทย์เป็นสำคัญครับ