โปรแกรม Morpheus (มอร์เฟียส) หยุดความย่น ยับ ย้อย ให้กลับมาอ่อนเยาว์ได้อีกครั้ง
โปรแกรม Morpheus คืออะไร
เป็นโปรแกรมยกกระชับใบหน้าซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้อย่างล้ำลึก รวมไปถึงการแก้ปัญหาในด้านความหย่อนคล้อยหรือร่องตื้นบนใบหน้าให้จางลง เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยสำหรับคนที่เริ่มพบกับปัญหาบนใบหน้า มิติใหม่ของเทคโนโลยีวงการแพทย์ผิวหนังที่รวมเอา Fractional radiofrequency (RF) และ Micro-needling มารวมไว้ในเครื่องเดียวเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นและยกกระชับขึ้นได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องผ่าตัด เรียกได้ว่า Morpheus รุ่น Pro ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะจุดต่างๆของผิวหน้าและผิวกายได้อย่างตรงจุดมากเลยทีเดียว

โปรแกรม Morpheus ต่างจาก ULTHERA และ THERMAGE อย่างไร?
ทั้งนี้พลังงาน RF จะถูกส่งเข้าสู่ผิวหนังผ่านหัวทิปที่มีลักษณะเป็นเข็มขนาดเล็กมากๆ จำนวน 24 เข็ม เรียงตัวกันลักษณะคล้ายตารางสี่เหลี่ยม แต่ละเข็มจะถูก coat ด้วยทองคำซึ่งทำให้การส่งผ่านพลังงาน RF เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด เมื่อแพทย์ทำการรักษาด้วย Morpheus Pro พลังงาน RF จะผ่านลงไปสู่ชั้นต่างๆใต้ผิวหนังตามวัตถุประสงค์การรักษา ซึ่งแตกต่างกันตามปัญหาของชั้นผิวใบหน้า ตั้งแต่ 1-4 มิลลิเมตร (Adjustable depth fractional radiofrequency) อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาที่สามารถปล่อยพลังงานเข้าสู่ผิวได้ลึกที่สุด (Deepest FDA approved fractional technology)
นอกจากนี้ Morpheus Pro (มอร์เฟียส) ยังมีหัวทิปสำหรับผิวกายซึ่งสามารถปรับระดับความลึกของชั้นผิวได้ด้วย Multi-layer technology ตั้งแต่ 1-7 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ลึกที่สุด
– Ultherapy 4.5 mm
– Software 1.5 mm
– Thermage 3.0 mm
– Morpheus Pro 1.0 – 7.0 mm
โปรแกรม Morpheus Pro เครื่องเดียวที่ลงลึกถึง 7 ชั้นผิว
ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด “non-surgical lifting” โดยพลังงานจะถูกปล่อยไปในหลายระดับชั้นของผิวหนัง ส่งผลให้ชั้นผิวเกิดกระบวนการ Dermal remodeling กระตุ้นการจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนในผิวชั้นหนังแท้ Subdermal Adipose Remodeling (SAR) สามารถหดชั้นไขมันใต้ผิว ส่งผลให้ผิวตึงกระชับ แก้ปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยโดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นเทคโนโลยีเดียวที่สามารถปล่อยพลังงานให้เกิด SAR ได้โดยไม่ทำให้แก้มตอบเกินไปอีกด้วย Extracellular matrix (ECM) กระตุ้นให้ผิวเกิดกระบวนการสร้าง HA ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่เสื่อมตามกาลเวลาให้ดูอ่อนเยาว์ พร้อมทั้งฟื้นคืนผิวที่มีความเหี่ยวย่น

โปรแกรม Morpheus รุ่น Pro ช่วยผิวอย่างไร?
- กระตุ้นการจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนในผิวชั้นหนังแท้ (Dermal Remodeling)
- ช่วยให้ชั้นไขมันใต้ผิวหนังเกิดการหดตัว (Subdermal Adipose Remodeling (SARD) หน้าเรียว V Shape ช่วยยกกระชับ แก้ปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย
- กระตุ้นให้ผิวเกิดกระบวนการสร้าง Hyaluronic Acid ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ผิวฟู อ่อนเยาว์
- ช่วยลดเส้นร่องลึกเล็กๆบนผิว
- รักษารอยแผลเป็น และผิวที่ไม่เรียบเนียน
- ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
รีวิวโปรแกรม Morpheus รุ่น Pro
โปรแกรม Morpheus เหมาะสำหรับใคร
– ลดเส้นร่องลึกเล็กๆบนผิว
– ยกกระชับผิว เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวดูสุขภาพดี
– ผิวที่ไม่เรียบเนียน รอยแตกลายหน้าท้อง ต้นขา
– ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู อ่อนเยาว์ โดยไม่ต้องการฉีดฟิลเลอร์
– ทำการรักษาได้ทั่งบริเวณใบหน้า ลำคอ และลำตัว เช่น บริเวณหัวเข่า มือ หน้าท้อง และใต้วงแขน เป็นต้น
– ลดเส้นร่องลึกเล็กๆบนผิว
– ยกกระชับผิว เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวดูสุขภาพดี
– ผิวที่ไม่เรียบเนียน รอยแตกลายหน้าท้อง ต้นขา
– ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู อ่อนเยาว์ โดยไม่ต้องการฉีดฟิลเลอร์
– ทำการรักษาได้ทั่งบริเวณใบหน้า ลำคอ และลำตัว เช่น บริเวณหัวเข่า มือ หน้าท้อง และใต้วงแขน เป็นต้น
ระยะเวลาและผลลัพธ์หลังทำโปรแกรม Morpheus Pro
โปรแกรม Morpheus Pro ผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดเจนขึ้น 3 เดือนหลังจากรับการรักษา โดยสามารรักษาได้ทั่วใบหน้าและลำคอ ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 12 เดือน
โปรแกรม Morpheus รุ่น pro ราคาเท่าไหร่?
ราคาโปรพิเศษ ยิงทั่วหน้า เหนียง คอ 34,990 บาท (จากปกติ 50,000 บาท)
โปรแกรม Morpheus 8 Prime เพื่อผิวใต้ตาเรียบเนียน ลดขนาดถุงใต้ตาและลดริ้วรอยรอบดวงตา
การแก้ปัญหาถุงใต้ตาด้วยการฉีดฟิลเลอร์อาจช่วยให้ใต้ตาดูสดใสขึ้น ลดขนาดถุงใต้ตา และปัญหาริ้วรอยใต้ตา ผิวใต้ตาหย่อนคล้อย ถุงไขมันใต้ตาบวมพองออกมาชัดเจน และการไหลเวียนน้ำเหลืองรอบดวงตาที่ไม่ดี เหล่านี้ล้วนส่งผลให้คนไข้หลายท่านมีปัญหาบวมรอบดวงตา และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ใต้ตาดูหมองคล้ำอีกด้วย ลดรอยคล้ำใต้ตาได้ แต่ในกรณีที่คนไข้บางรายซึ่งมีผิวรอบดวงตาบางมาก อาจไม่ค่อยได้ผลจากเทคนิคการแก้ไขปัญหาใต้ตาด้วยการฉีดฟิลเลอร์เพียงอย่างเดียว หรือที่ผมเรียกว่า “Filler failure” Filler failure คือภาวะอันไม่พึงประสงค์จากการฉีดฟิลเลอร์ เช่น บวม อักเสบ ติดเชื้อ รูปหน้าแปลกไปจากเดิม เป็นต้น สาเหตุส่วนหนึ่งของภาวะนี้คือผิวที่บางลงจากปริมาณคอลลาเจนที่ลดลงเมื่ออายุมากขึ้นนั่นเอง เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เราอาจฉีดฟิลเลอร์ก็สวยตามที่ต้องการแล้ว แต่พอวันเวลาผ่านมา 10 ปี ผิวที่บางลง คุณภาพผิวไม่เหมือนสมัยก่อน
จึงทำให้อุ้มฟิลเลอร์ไว้ได้ไม่ดีพอ ส่งผลให้ใต้ตาบวม เห็นสีน้ำเงินเข้มหรือสีเทาๆใต้ตาจากก้อนฟิลเลอร์ เป็นต้น
โปรแกรมการรักษา Morpheus Prime คืออะไร?
คือ Fractional RF microneedling เป็นการรักษาด้วยการปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุพลังงานสูงผ่านเข็มขนาดเล็กที่เคลือบด้วยทองคำซึ่งเป็นตัวนำพลังงานความร้อนที่ดีลงสู่ผิวหนังรอบดวงตา ด้วยหัวปล่อยพลังงานที่ออกแบบมาเพื่อผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะ มีจำนวนเข็ม 12 อันเพื่อให้มีขนาดเล็กพอที่จะสามารถเข้าไปยิงพลังงานได้ถึงผิวหนังเปลือกตามากที่สุด โดย Morpheus Prime จะเข้าไปกระตุ้น Vascular Endothelial Growth Factor (VEGF)ซึ่งมีการศึกษาว่าเป็นตัวช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดและทางเดินน้ำเหลือง เมื่อรอบดวงตามีทางระบายน้ำเหลืองมากขึ้น จึงช่วยลดอาการใต้ตาบวมได้ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาว่าพลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นจากคลื่นวิทยุจะไม่ไปรบกวนหรือทำลายเส้นเลือดและทางเดินน้ำเหลืองบริเวณใต้ตาที่มีอยู่เดิมอีกด้วย และเป็นพลังงานที่ปลอดภัยสำหรับการรักษารอบดวงตา ช่วยเพิ่มความแน่นกระชับผิว (Skin tightening) ลดขนาดไขมันใต้ตา (Infraorbital fat) ลดถุงใต้ตาและช่วยเพิ่มการไหลเวียนน้ำเหลืองให้ดีขึ้น Fractional RF microneedling ยังเหมาะกับคนไข้ทุกสีผิวอีกด้วย เพราคลื่นวิทยุจะไม่จับกับเม็ดสีดำอย่างจำเพาะเจาะจง จึงลดโอกาสเกิดรอยดำหลังเลเซอร์ได้
Morpheus 8 เป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการรักษาริ้วรอยและปัญหารอบดวงตาเพียงการทายาชาก่อนทำหัตถการก็เพียงพอช่วยลดอาการเจ็บขณะทำการรักษาได้แล้ว อย่างไรก็ตามในคนไข้ที่กังวลมาก แพทย์อาจเลือกใช้ยาชาชนิดฉีดเพิ่มรอบดวงตาเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากที่สุด
การดูแลหลังทำ Morpheus Prime
1.หลีกเลี่ยงการโดนน้ำ 1 คืน
2.ประคบเย็นบริเวณรอบดวงตา
3.งดออกกำลังกายหนัก 2-3 วัน
4.ทาขี้ผึ้งฆ่าเชื้อ 2-3 วันหรือจนแผลเริ่มแห้ง
5.อาจมีแผลจุดช้ำเล็กๆและบวมเล็กน้อยใน3-7วันและจะค่อยๆดีขึ้นผลลัพธ์เห็นชัด
6.ตั้งแต่ 4-6 สัปห์ดาเป็นต้นไป แนะนำทำการรักษา 2-3 ครั้ง ทุก 1 เดือน